กระทิงโทน เล่ม 1

กระทิงโทน เล่ม 1

กระทิงโทน เล่ม 1
ผู้เขียน: สิงขร
สำนักพิมพ์: singkornbangkok
หมวด: นิยายผจญภัย / บู๊แอ็คชั่น

กระทิงโทน เล่ม 1
สิงขร
www.mebmarket.com
นวนิยายเรื่องเยี่ยม…เรื่องกระทิงโทน มาตามคำเรียกร้องของท่านแล้วนะครับ แฟนพันธุ์แท้ของสิงขรต้องไม่พลาดเรื่องนี้นะครับ ท่านจะพบกับความสนุกสนาน เข้มข้น ตื่นเต้นเร้าใจ สนุกทุกตัวอักษร ชนิดที่ท่านต้องติดตามและวางไม่ลงอย่างแน่นอน นามปากกา… “สิงขร” รับประกันความสนุกที่ไม่เหมือนใครอยู่แล้วครับ โคทม…ไอ้หนุ่มรูปงามร่างใหญ่แห่งหมู่บ้านห้วยกระทิง เคารพและบูชากระทิงว่าเป็นสัตว์เหนือกว่าสัตว์ทั้งปวง สง่างาม แกร่งกล้าห้าวหาญ ที่สำคัญ…เขายังนามสกุล”กระทิงโทน”ด้วย ชายหนุ่มมีอาชีพแกะสลักกระทิงขาย ที่บริเวณลานหน้าหมู่บ้าน ยังมีกระทิงไม้แกะสลักตัวเท่ากระทิงจริงไว้เป็นสัญลักษณ์สำหรับบูชากราบไหว้ เพื่อเป็นที่พึ่งพาทางใจยามมีเภทภัยภยันตรายต่างๆของเขาและชาวบ้านห้วยกระทิง อารีไพร…สาวสวยกร้าว ลูกสาวเจ้าพ่อเจ็ดแผ่นดิน พร้อมกับพรรคพวกบุกหมู่บ้านห้วยกระทิงของโคทม กว๊านซื้อไม้แกะสลักรูปกระทิงทั้งหมด แล้วจัดการเผาทิ้งทันที แม้กระทั่งกระทิงไม้แกะสลักสัญลักษณ์ประจำหมู่บ้านก็ถูกเธอระเบิดทำลายทิ้งทั้งหมด โคทมและชาวบ้านห้วยกระทิงโกรธจัด ที่บังอาจทำลายสิ่งที่พวกเขาเคารพบูชา จึงสั่งชาวบ้านเข้าห้ำหั่นอารีไพรกับเหล่าบริวารจนล้มตาย และอารีไพรถูกจับไปทรมานแสนสาหัสปางตาย ทำไมโคทมถึงเคารพบูชากระทิง ทำไมอารีไพรถึงเกลียดกระทิงเข้ากระดูกดำ และทำไมคนที่รักและเกลียดกระทิงต้องมาพบกันด้วยเรื่องราวต่างๆจะเป็นเช่นไรนั้น ท่านต้องติดตามค้นหาคำตอบได้ในกระทิงโทนแล้วครับ ตัวอย่างบางตอน…“แกร๊ก…แกร๊ก…แกร๊ก“ “จิ๊บๆๆ…จิ๊บๆๆ…จิ๊บๆๆ” “ก้า…ก้า…ก้า”นก-ไหน่-ไก่-กา เพิ่งออกหากินในยามเช้า ตามปกติวิสัยของส่ำสัตว์ได้เพียงชั่วโมงกว่าๆเท่านั้นเอง พวกมันต้องรีบกลับรวงรัง เล้าเรือน และโพรงไม้ที่อยู่อาศัยอย่างรีบด่วนกะทันหันกันจ้าละหวั่น เพราะว่าท้องฟ้าเบื้องบนมืดครึ้มลงอย่างรวดเร็ว แทบจะมองไม่เห็นอะไร ทั้งๆที่เพิ่งจะอรุณเบิกฟ้า ตะวันสีหมากสุกกลมโตเท่ากระดังฝัดข้าวเห็นอยู่แหม็บๆ โผล่พ้นสันดอยดงตาล เวลานี้หายไปราวกับโดนราหูอมไหน่ คือกระรอกพันธุ์เล็ก หางไม่เป็นพวง หวือ..หวือ..หวือเสียงลมพัดอื้ออึงถาโถมซัดใส่หมู่บ้าน “ห้วยกระทิง” จากทุกทิศทาง ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่กลางหุบ โดยมีสันดอยดงตาลล้อมรอบ แต่มองไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น เวลานี้เสียงต้นไม้หักโค่นรอบด้านราวกับป่าทั้งป่าแหลกลาญ ไม่เหลือต้นไม้แม้ต้นเดียว…เพี้ยะ…โครม ม ม เอี๊ยด…ครึ่ม ม มฟ้าแลบแปลบปลาบ ตามด้วยเสียงคํารามกึกก้องบนท้องฟ้าเหนือหมู่บ้านห้วยกระทิง ราวกับฟ้าจะถล่มทลายลงมาเสียให้ได้ และฟ้าพิโรธโกรธอะไรนักหนา…แว้บ…เปรี้ยง ง ง แว้บ…กรึ้ม ม มชาวบ้านคาดเดาว่าในไม่ช้านี้ ฝนจะต้องเทลงมาราวกับฟ้ารั่วอย่างแน่นอน เพราะเมฆฝนปกคลุมมืดครึ้มเหนือหมู่บ้านห้วยกระทิงไปหมด แทบมองไม่เห็นอะไร และน้ำจะต้องท่วมถึงครึ่งบันไดบ้าน บรรดาไก่ทุกบ้านถึงได้รีบขึ้นเล้าอย่างฉุกละหุกเวลาผ่านไปร่วมสิบนาที ฝนฟ้าหาได้เทสาดซัดลงมาดังคาดไม่ แต่ในวินาทีนั้น…กลับมีเสียงหนึ่งดังแทรกเสียงธรรมชาติพิโรธ…“โฮก ก ก…ฮึ่ม ม ม !“เป็นเสียงของพยัคฆ์ร้าย ที่คํารามกึกก้องสะท้อนสะท้านไปมาแข่งกับเสียงฟ้าคํารน ซึ่งได้ยินไปทั่วทั้งหมู่บ้าน ทําให้ทุกคนในหมู่บ้านห้วยกระทิง ตื่นตระหนกอกสั่นขวัญผวาตาเหลือกลานกันสุดขีดในวินาทีนั้น พวกที่หลบลมหลบฝนอยู่ตามร่มไม้ชายคาเตี้ยๆหรืออยู่ใต้ยุ้งข้าวเพิงพักชั่วคราว ต่างก็เผ่นแนบขึ้นบนบ้านโดยสัญชาติญาณแห่งความกลัว และเอาตัวรอด ไม่ต้องมีใครร้องเตือนใดๆทั้งสิ้นพ่อแม่รีบต้อนลูกๆขึ้นบนบ้าน และเข้าไปในห้องนอนกันหมดสิ้น เพราะเสียงคํารนคํารามอันน่าสะพรึงกลัว ดังกึกก้องแทรกซ้อนเข้าไปในโสตประสาทของทุกคนให้หวาดผวาขาสั่น เด็กเล็กที่ไร้เดียงสามีอยู่หลายบ้านถึงกับร้องไห้จ้าออกมา เนื่องจากตกใจกลัว พ่อแม่ต้องรีบผวาอ้าแขนโอบอุ้มลูกน้อยไว้แนบอก แล้วรีบปลุกปลอบขวัญเป็นการใหญ่ทุกคนในหมู่บ้านต่างก็อกสั่นขวัญแขวน ขนพองสยองเกล้าไปตามๆกัน ต่อเสียงอันทรงพลังและน่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงของพยัคฆ์ร้ายนั้นแต่คนภายในบ้านหลังนี้ ซึ่งปลูกอยู่ท้ายหมู่บ้านห้วยกระทิงค่อนไปทางทุ่งร้าง มีด้วยกันสองพ่อลูก ไม่ยอมกลัวเสียงของจอมพยัคฆาที่แผดร้องกึกก้องโกญจนาทตลอดเวลา ผู้เป็นพ่อวัยห้าสิบเศษนามว่า ”ต่วน” มีอาชีพเป็นพรานป่า ส่วนลูกนั้นเป็นสาววัยรุ่นนาม“กลิ่นแป้ง“ทั้งคู่หน้าตื่นเริด ขยับออกมายืนที่นอกชาน แล้วผู้เป็นพ่อก็โพล่งเสียงดัง…“เฮ้ย! ใครผิดป่าวะ เจ้าป่ามันถึงได้ตามมาถึงบ้าน”“แป้งว่าผิดบ้านมากกว่านะพ่อ เพราะถ้าผิดป่าต้องเกิดขึ้นที่ป่าสิ“ กลิ่นแป้งแย้งเสียงดังแข่งเสียงฟ้าพิโรธ และเสียงคํารามของพยัคฆา”เออวะ แต่จะผิดอะไรข้าก็ต้องออกไปแก้ไขละวะ เอ็งอยู่บนบ้านก็แล้วกัน อย่าตามไปให้ข้าต้องพะวงล่ะ”พรานต่วนย้อนเสียงดัง พลางเดินกลับเข้าไปในบ้าน คว้าย่ามเก่าคร่ำคร่า ภายในนั้นมีของดีแน่นอนกลิ่นแป้งหายตัวไปเสียแล้ว ท่ามกลางอาถรรพณ์ร้ายที่ครอบคลุมทั้งหมู่บ้าน โดยหาได้เกรงกลัวเภทภัยนี้สักนิดไม่ ทั้งๆที่ไหนจะเสียงฟ้าคํารน เสียงพายุพัดอื้ออึง ไม้หักโผงผางดังลั่นสนั่นป่ารอบๆหมู่บ้าน และไหนจะจอมพยัคฆาคํารามกึกก้องฟังแล้วขวัญหนีดีฝ่อพรานต่วนก็ไม่เป็นห่วงบ่วงใยลูกสาวคนเดียวเลย เมื่อไม่พบก็แล้วกันไป ไม่ตาลีตาเหลือกตะโกนถามหา เพราะรู้แรงกันดีนั่นเอง เขาเดินกระเผลกอันเป็นบุคลิกไปยังลานหมู่บ้าน แต่ในมือขวาล้วงเข้าไปในถุงย่าม กําวัวธนูที่ทําจากเขาวัวตายฟ้าผ่าแกะสลักเป็นรูปวัวสองตัว แต่ละตัวเท่ากําปั้นเด็กเล็ก ใต้ท้องวัวถูกยัดด้วยเส้นผมผีตายโหง มีชันอุดไว้ดิบดี พรานต่วนขาเป๋ร่ายคาถาปลุกวัวธนูไปด้วย…โคอุสะโภ มะหิงสาโน โสสะอะนิ สะอะนิโส มะพะทะนะ พะทะนะมะ วัวธนูตนผู้เป็นใหญ่กว่าฝูงปีศาจทั้งหลาย มีฤทธิ์เดชอํานาจห้าวหาญ จงไปไล่ขวิดเข่นฆ่าอมิตรให้ล้มตายพินาศสิ้น โอม…เพี้ยง