อวลกลิ่นจันทน์

อวลกลิ่นจันทน์

อวลกลิ่นจันทน์
ผู้เขียน: สร้อยระย้า
สำนักพิมพ์: เขียนรักนิรันดร์ บุ๊คส์
หมวด: นิยายโรมานซ์


เพราะอุบัติเหตุที่ไม่รู้ว่าเกิดจากพรหมลิขิตหรือปาฏิหาริย์ทำให้นางเอกสาวกลิ่นจันทน์กับคุณหมอหนุ่มได้มาเจอกัน ปรินทรรู้แค่ว่าเขาไม่อาจละสายตาไปจากเธอได้อีกตลอดไป

****************************

เสียงตีน้ำไม่ค่อยดังมากนัก แต่ก็ทำให้ปรินทรตื่นขึ้นมาจนได้ เมื่อเปิดเปลือกตาขึ้น เขานิ่งปรับสายตาอยู่พักหนึ่ง แล้วจึงหันไปตามเสียง เห็นแค่แผ่นหลังบอบบางในชุดเรียบร้อย ผมดกดำเหยียดตรงถูกถักเป็นเปียเดี่ยวข้างหลัง เขายิ้มมองภาพนั้นอยู่นาน จนกระทั่งขยับกายลุกขึ้นนั่งและได้กลิ่นดอกจันทน์กะพ้อที่ลอยมาตามลม เขาจึงหันมองไปรอบๆ เพราะก่อนจะเดินมาถึงศาลาริมสระบัวแห่งนี้เขาก็เห็นต้นจันทน์กะพ้ออยู่หลายต้น ตอนแรกที่เห็นเขาไม่รู้จักหรอกว่ามันเป็นต้นอะไร แต่กลิ่นจันทน์บอกว่ามันเป็นต้นจันทน์กะพ้อ สมัยโบราณนิยมนำมาทำน้ำอบ น้ำมาแต่งกลิ่นอาหาร ปัจจุบันก็มีน้ำหอมที่ทำจากดอกจันทน์กะพ้อมากมาย
ต้นจันทน์กะพ้อที่เห็นนี้ลำต้นไม่สูงมากนัก แต่บางต้นลำอวบใหญ่ท่าทางว่าอายุไม่ต่ำกว่าสามสิบปี กำลังออกดอกบานสะพรั่งเหมือนจะเบ่งบานอวดกลีบดอกให้เชยชม
ปรินทรลุกขึ้นและเดินไปที่ใต้ต้นจันทน์กะพ้อข้างศาลาเอื้อมมือขึ้นเหนือศีรษะไปเด็ดออกมาจรดจมูกดอกหนึ่ง ริมฝีปากค่อยๆ ขยายอย่างพอใจ เขาหันกลับและเดินเข้าไปหากลิ่นจันทน์ ปักดอกจันทน์กะพ้อลงไปยังเปียส่วนล่างตรงยางที่รัดเอาไว้เบาๆ เสร็จแล้วก็ยิ้มน้อยๆ เพราะเจ้าของเรือนผมงดงามยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
“ปลาอะไรครับ?”
“อุ๊ย!” เพราะไม่ทันรู้ตัวว่าปรินทรตื่นแล้ว ซ้ำยังเดินเข้ามาใกล้เสียจนเกือบจะชิดกลิ่นจันทน์เลยสะดุ้งเล็กน้อย แล้วหันไปยิ้มให้เขา “คุณหมอตื่นแล้ว” ก่อนจะหันกลับไปมองพวกปลาที่กำลังแย่งอาหารกัน “ปลานิลกับปลาตะเพียนค่ะ คุณยายเอามาปล่อยไว้นานแล้ว”
“ตัวใหญ่มากทีเดียว”
“ใช่ค่ะ” กลิ่นจันทน์ก็ไม่รู้จะชวนเขาคุยอะไร ประหม่ามากทีเดียว
ปรินทรนั่งลงข้างๆ แล้วก็ขอถังอาหารจากกลิ่นจันทน์ก่อนจะเป็นคนตักอาหารโปรยให้ปลาเอง
“โอ๋ทำเสียงดังให้คุณหมอตื่นหรือเปล่าคะ”
“เปล่าหรอกครับ ไม่รู้เผลอหลับไปตอนไหน อากาศเย็นสบายจนเผลอไป”
“เป็นเหมือนกันหมดแหละค่ะ เพียงแต่โอ๋ชินกับบ้านสวนนี้แล้ว แต่ไม่ว่าใครมาครั้งแรกก็เป็นเหมือนคุณหมอหมด”
ปรินทรหัวเราะเบาๆ “ผมชอบบ้านสวนมากจริงๆ ชอบคนอยู่บ้านสวนด้วย”
ได้ยินดังนั้นแล้วกลิ่นจันทน์ก็ได้แต่นิ่งมองคุณหมอหนุ่มที่นั่งใกล้กันนิดเดียว กลิ่นกายหอมอ่อนๆ ยังได้กลิ่นเลย ตอนนี้เองที่ปรินทรหันมาสบตา แววตาลึกล้ำชวนมอง “ชอบคนอยู่บ้านสวนอย่างคุยโอ๋ด้วย”
คราวนี้ยิ่งชัดเจน คำพูดของปรินทรเล่นเอากลิ่นจันทน์อายม้วน สองข้างแก้มแดงปลั่ง ใบหน้างดงามก้มลงน้อยๆ แต่ริมฝีปากกลับยกยิ้มชวนมอง ซึ่งก็ตกอยู่ในสายตาของปรินทรตลอดทำให้เขาต้องยิ้มตาม
“แผลถลอกที่แก้มหายแล้วนะครับ ที่หน้าผากก็แทบจะไม่เห็นแล้ว” เขาชวนเปลี่ยนเรื่องทันทีเพราะไม่อยากให้กลิ่นจันทน์ขวยเขินกับเขาจนเป็นว่าชวนอึดอัด
“ค่ะ”
“ยังปวดตรงไหนอีกหรือเปล่า?”
“บางทีมือชาค่ะ บางครั้งก็เจ็บแปลบที่แขนตรงที่หัก”
“เป็นอาการปกติครับ อย่าเผลอยกของหนักก็พอแล้ว”
“สะโพกล่ะครับ?”
“ยังปวดอยู่บ้างค่ะ แต่โอ๋ไม่ได้บอกคุณยายกลัวจะกังวลเกินไป ให้รู้แค่ที่เห็นอยู่นี่ก็พอแล้ว”
อยู่ๆ ปรินทรก็จับปลายนิ้วข้างที่ใส่เฝือก กลิ่นจันทน์ไม่ได้ดึงมือกลับเพราะกลัวกระเทือนถึงกระดูกที่หัก นิ้วเรียวยาวตัดเล็บสั้นสะอาดค่อยๆ ลูบปลายนิ้วของเธอก่อนจะลงแรงกดลงที่ปลายนิ้วนั้น “เจ็บไหม?”
“เจ็บค่ะ”
เขาเลยเปลี่ยนมาเป็นใช้ปลายนิ้วค่อยๆ ไล้เบาๆ เหมือนจะเป็นการปลอบประโลมที่ทำให้เธอเจ็บ ต่างคนต่างไม่พูด แต่สายตามองยังสองมือที่สัมผัสกันด้วยความรู้สึกวูบไหวในอก

อวลกลิ่นจันทน์
สร้อยระย้า
www.mebmarket.com
เพราะอุบัติเหตุที่ไม่รู้ว่าเกิดจากพรหมลิขิตหรือปาฏิหาริย์ทำให้นางเอกสาวกลิ่นจันทน์กับคุณหมอหนุ่มได้มาเจอกัน ปรินทรรู้แค่ว่าเขาไม่อาจละสายตาไปจากเธอได้อีกตลอดไป**************************** เสียงตีน้ำไม่ค่อยดังมากนัก แต่ก็ทำให้ปรินทรตื่นขึ้นมาจนได้ เมื่อเปิดเปลือกตาขึ้น เขานิ่งปรับสายตาอยู่พักหนึ่ง แล้วจึงหันไปตามเสียง เห็นแค่แผ่นหลังบอบบางในชุดเรียบร้อย ผมดกดำเหยียดตรงถูกถักเป็นเปียเดี่ยวข้างหลัง เขายิ้มมองภาพนั้นอยู่นาน จนกระทั่งขยับกายลุกขึ้นนั่งและได้กลิ่นดอกจันทน์กะพ้อที่ลอยมาตามลม เขาจึงหันมองไปรอบๆ เพราะก่อนจะเดินมาถึงศาลาริมสระบัวแห่งนี้เขาก็เห็นต้นจันทน์กะพ้ออยู่หลายต้น ตอนแรกที่เห็นเขาไม่รู้จักหรอกว่ามันเป็นต้นอะไร แต่กลิ่นจันทน์บอกว่ามันเป็นต้นจันทน์กะพ้อ สมัยโบราณนิยมนำมาทำน้ำอบ น้ำมาแต่งกลิ่นอาหาร ปัจจุบันก็มีน้ำหอมที่ทำจากดอกจันทน์กะพ้อมากมาย ต้นจันทน์กะพ้อที่เห็นนี้ลำต้นไม่สูงมากนัก แต่บางต้นลำอวบใหญ่ท่าทางว่าอายุไม่ต่ำกว่าสามสิบปี กำลังออกดอกบานสะพรั่งเหมือนจะเบ่งบานอวดกลีบดอกให้เชยชม ปรินทรลุกขึ้นและเดินไปที่ใต้ต้นจันทน์กะพ้อข้างศาลาเอื้อมมือขึ้นเหนือศีรษะไปเด็ดออกมาจรดจมูกดอกหนึ่ง ริมฝีปากค่อยๆ ขยายอย่างพอใจ เขาหันกลับและเดินเข้าไปหากลิ่นจันทน์ ปักดอกจันทน์กะพ้อลงไปยังเปียส่วนล่างตรงยางที่รัดเอาไว้เบาๆ เสร็จแล้วก็ยิ้มน้อยๆ เพราะเจ้าของเรือนผมงดงามยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ “ปลาอะไรครับ?” “อุ๊ย!” เพราะไม่ทันรู้ตัวว่าปรินทรตื่นแล้ว ซ้ำยังเดินเข้ามาใกล้เสียจนเกือบจะชิดกลิ่นจันทน์เลยสะดุ้งเล็กน้อย แล้วหันไปยิ้มให้เขา “คุณหมอตื่นแล้ว” ก่อนจะหันกลับไปมองพวกปลาที่กำลังแย่งอาหารกัน “ปลานิลกับปลาตะเพียนค่ะ คุณยายเอามาปล่อยไว้นานแล้ว” “ตัวใหญ่มากทีเดียว” “ใช่ค่ะ” กลิ่นจันทน์ก็ไม่รู้จะชวนเขาคุยอะไร ประหม่ามากทีเดียวปรินทรนั่งลงข้างๆ แล้วก็ขอถังอาหารจากกลิ่นจันทน์ก่อนจะเป็นคนตักอาหารโปรยให้ปลาเอง “โอ๋ทำเสียงดังให้คุณหมอตื่นหรือเปล่าคะ” “เปล่าหรอกครับ ไม่รู้เผลอหลับไปตอนไหน อากาศเย็นสบายจนเผลอไป” “เป็นเหมือนกันหมดแหละค่ะ เพียงแต่โอ๋ชินกับบ้านสวนนี้แล้ว แต่ไม่ว่าใครมาครั้งแรกก็เป็นเหมือนคุณหมอหมด” ปรินทรหัวเราะเบาๆ “ผมชอบบ้านสวนมากจริงๆ ชอบคนอยู่บ้านสวนด้วย” ได้ยินดังนั้นแล้วกลิ่นจันทน์ก็ได้แต่นิ่งมองคุณหมอหนุ่มที่นั่งใกล้กันนิดเดียว กลิ่นกายหอมอ่อนๆ ยังได้กลิ่นเลย ตอนนี้เองที่ปรินทรหันมาสบตา แววตาลึกล้ำชวนมอง “ชอบคนอยู่บ้านสวนอย่างคุยโอ๋ด้วย”คราวนี้ยิ่งชัดเจน คำพูดของปรินทรเล่นเอากลิ่นจันทน์อายม้วน สองข้างแก้มแดงปลั่ง ใบหน้างดงามก้มลงน้อยๆ แต่ริมฝีปากกลับยกยิ้มชวนมอง ซึ่งก็ตกอยู่ในสายตาของปรินทรตลอดทำให้เขาต้องยิ้มตาม “แผลถลอกที่แก้มหายแล้วนะครับ ที่หน้าผากก็แทบจะไม่เห็นแล้ว” เขาชวนเปลี่ยนเรื่องทันทีเพราะไม่อยากให้กลิ่นจันทน์ขวยเขินกับเขาจนเป็นว่าชวนอึดอัด “ค่ะ” “ยังปวดตรงไหนอีกหรือเปล่า?” “บางทีมือชาค่ะ บางครั้งก็เจ็บแปลบที่แขนตรงที่หัก” “เป็นอาการปกติครับ อย่าเผลอยกของหนักก็พอแล้ว” “สะโพกล่ะครับ?” “ยังปวดอยู่บ้างค่ะ แต่โอ๋ไม่ได้บอกคุณยายกลัวจะกังวลเกินไป ให้รู้แค่ที่เห็นอยู่นี่ก็พอแล้ว” อยู่ๆ ปรินทรก็จับปลายนิ้วข้างที่ใส่เฝือก กลิ่นจันทน์ไม่ได้ดึงมือกลับเพราะกลัวกระเทือนถึงกระดูกที่หัก นิ้วเรียวยาวตัดเล็บสั้นสะอาดค่อยๆ ลูบปลายนิ้วของเธอก่อนจะลงแรงกดลงที่ปลายนิ้วนั้น “เจ็บไหม?” “เจ็บค่ะ” เขาเลยเปลี่ยนมาเป็นใช้ปลายนิ้วค่อยๆ ไล้เบาๆ เหมือนจะเป็นการปลอบประโลมที่ทำให้เธอเจ็บ ต่างคนต่างไม่พูด แต่สายตามองยังสองมือที่สัมผัสกันด้วยความรู้สึกวูบไหวในอก