เร้นรักมธุรสลวง

เร้นรักมธุรสลวง

เร้นรักมธุรสลวง
ผู้เขียน: พิชามญชุ์
สำนักพิมพ์: พิชามญชุ์ (พิจักขณา)
หมวด: นิยายโรมานซ์

สำหรับมนุษย์รักแรงโกรธแรงอย่าง คมพัชญ์ บารมีเสียดฟ้า หนุ่มหล่อทายาทพ่อเลี้ยงเจ้าของสวนผลไม้คนดังเมืองเหนือที่เหล่าคนงานให้นิยามไว้ว่าเทพบุตรในคราบปีศาจ เพราะยามดีก็ดีใจหาย แต่ยามร้ายก็ฉิบหายกันถ้วนหน้า สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือการถูกหักหลัง จึงไม่ต้องแปลกใจที่ลันลาดา มหาดำรงค์ สาวน้อยหน้าหวานผู้เป็นรักแรกและรักเดียวของชายหนุ่มจะต้องเจ็บช้ำกับคำพูดจาร้ายกาจจนน้ำตานองหน้าไม่เว้นแต่ละวัน โทษฐานที่ใช้ดวงตาใสซื่อและท่าทางไร้เดียงสาหลอกว่ารักจนเขาทุ่มเทให้หมดทั้งใจ

“แกล้งโง่ให้ดูไร้เดียงสากว่านี้อีกสิบเท่า ค่าตัวเธอก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นหรอก”

“พี่คม ทำไมพูดกับลาดาแบบนี้ล่ะคะ”

พอตัดสินใจเปิดเผยตัวตน คมพัชญ์ก็ไม่คิดยั้งปากยั้งคำพูดใดๆทั้งสิ้น สมองคิดอะไร ปากก็พ่นออกมาแบบนั้น ทำเอาคนฟังผงะตกใจจนหน้าถอดสีกับวาจาเชือดเฉือน

“เธอมาที่ไร่บารมีเสียดฟ้าทำไมล่ะ” ไม่ใช่แค่ท่าทีที่เปลี่ยน แต่สรรพนามเรียกขานก็ยังห่างเหิน

“ลาดามา…มา…”

“จะอ้ำอึ้งเพื่อ? พูดมาตรงๆสิว่าเอาตัวมาปรนเปรอแลกบ้าน ชำระหนี้ แล้วก็ค่าสินสอดก้อนโต”

“พี่คม!”

“ตกใจเหรอที่ฉันรู้ความจริง คนที่นี่เลี้ยงด้วยข้าว ไม่ใช่หญ้า ฉันถึงไม่โง่ให้เธอจูงจมูกเป็นควาย จำไว้!”

ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น ดวงตาของคมพัชญ์วาวโรจน์ดั่งมีกองเพลิงสุมเมื่อนึกถึงความจอมปลอมที่ลันลาดามอบให้ นอกจากนิสัยหวงของสุดโต่ง แฝดน้องแห่งไร่บารมีเสียดฟ้าเป็นคนรักแรงเกลียดแรง รักมากแค่ไหนความแค้นที่สุมในอกจากการถูกหักหลังก็ทวีคูณไปสิบเท่าร้อยเท่า และแรงแค้นมันก็มากมายจนถูกถ่ายทอดต่อไปยังข้อมือเล็ก เจ็บจนน้ำตาร่วงกับแรงบีบของมือใหญ่

“พี่คม ลาดาอธิบายได้นะคะ”

“ทำไม หรือจะบอกว่าที่ยอมลำบากลำบนมาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองเพราะหลงรักฉันจนถอนตัวไม่ขึ้น?”

“ถ้าลาดาบอกว่าใช่ล่ะคะ”

“ฉันก็จะบอกว่าตอแหล! อย่ามาพิรี้พิไรเพิ่มราคา รีบทำหน้าที่ของเธอซะ”

เร้นรักมธุรสลวง
พิชามญชุ์
www.mebmarket.com
สำหรับมนุษย์รักแรงโกรธแรงอย่าง คมพัชญ์ บารมีเสียดฟ้า หนุ่มหล่อทายาทพ่อเลี้ยงเจ้าของสวนผลไม้คนดังเมืองเหนือที่เหล่าคนงานให้นิยามไว้ว่าเทพบุตรในคราบปีศาจ เพราะยามดีก็ดีใจหาย แต่ยามร้ายก็ฉิบหายกันถ้วนหน้า สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือการถูกหักหลัง จึงไม่ต้องแปลกใจที่ลันลาดา มหาดำรงค์ สาวน้อยหน้าหวานผู้เป็นรักแรกและรักเดียวของชายหนุ่มจะต้องเจ็บช้ำกับคำพูดจาร้ายกาจจนน้ำตานองหน้าไม่เว้นแต่ละวัน โทษฐานที่ใช้ดวงตาใสซื่อและท่าทางไร้เดียงสาหลอกว่ารักจนเขาทุ่มเทให้หมดทั้งใจ “แกล้งโง่ให้ดูไร้เดียงสากว่านี้อีกสิบเท่า ค่าตัวเธอก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นหรอก” “พี่คม ทำไมพูดกับลาดาแบบนี้ล่ะคะ” พอตัดสินใจเปิดเผยตัวตน คมพัชญ์ก็ไม่คิดยั้งปากยั้งคำพูดใดๆทั้งสิ้น สมองคิดอะไร ปากก็พ่นออกมาแบบนั้น ทำเอาคนฟังผงะตกใจจนหน้าถอดสีกับวาจาเชือดเฉือน “เธอมาที่ไร่บารมีเสียดฟ้าทำไมล่ะ” ไม่ใช่แค่ท่าทีที่เปลี่ยน แต่สรรพนามเรียกขานก็ยังห่างเหิน“ลาดามา…มา…” “จะอ้ำอึ้งเพื่อ? พูดมาตรงๆสิว่าเอาตัวมาปรนเปรอแลกบ้าน ชำระหนี้ แล้วก็ค่าสินสอดก้อนโต” “พี่คม!” “ตกใจเหรอที่ฉันรู้ความจริง คนที่นี่เลี้ยงด้วยข้าว ไม่ใช่หญ้า ฉันถึงไม่โง่ให้เธอจูงจมูกเป็นควาย จำไว้!”ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น ดวงตาของคมพัชญ์วาวโรจน์ดั่งมีกองเพลิงสุมเมื่อนึกถึงความจอมปลอมที่ลันลาดามอบให้ นอกจากนิสัยหวงของสุดโต่ง แฝดน้องแห่งไร่บารมีเสียดฟ้าเป็นคนรักแรงเกลียดแรง รักมากแค่ไหนความแค้นที่สุมในอกจากการถูกหักหลังก็ทวีคูณไปสิบเท่าร้อยเท่า และแรงแค้นมันก็มากมายจนถูกถ่ายทอดต่อไปยังข้อมือเล็ก เจ็บจนน้ำตาร่วงกับแรงบีบของมือใหญ่“พี่คม ลาดาอธิบายได้นะคะ”“ทำไม หรือจะบอกว่าที่ยอมลำบากลำบนมาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองเพราะหลงรักฉันจนถอนตัวไม่ขึ้น?”“ถ้าลาดาบอกว่าใช่ล่ะคะ”“ฉันก็จะบอกว่าตอแหล! อย่ามาพิรี้พิไรเพิ่มราคา รีบทำหน้าที่ของเธอซะ”